
INTRODUCTION:"Building Information Modeling"
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตส่งผลให้กระบวนการทำงาน
ออกแบบในสำนักงานออกแบบแทบทุกแห่งมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ร่วมกับกระบวนการทำงาน ซึ่งอย่างน้อย ก็นำมาช่วยในการผลิต (Production)ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และได้ผลงานที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการเขียนแบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสำนักงานออกแบบทั่วๆ ไป เป็นต้น ในฉบับนี้จึงอยากขอกล่าวถึงแนวความคิดของเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบอาคารที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยท่านอาจเห็นได้จากซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ทางด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมในระยะหลังที่เน้นการสร้างงานในลักษณะของงานสามมิติมากยิ่งขึ้น โดยแนวความคิดที่กล่าวถึงก็คือ Building Information Modelling (BIM)
• แนวความคิด Building Information Modelling (BIM) นั้นเป็นแนวความคิดหนึ่งที่เป็นรากฐานของการพัฒนากระบวนการออกแบบอาคารด้วยการใช้คอมพิวเตอร์โดยอาศัยการกำหนดข้อมูลประกอบ (Information) ให้กับวัตถุหรือองค์ประกอบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการออกแบบอาคาร เพื่อทำให้เกิดลักษณะเฉพาะตัวของวัตถุหรือองค์ประกอบนั้นๆ รวมไปถึงการกำหนดความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของวัตถุต่างๆ เข้าด้วยกันทำให้การทำงานออกแบบสถาปัตยกรรมไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวอาคารหรือการออกแบบตกแต่งภายในจากเดิมที่มุ่งเน้นการทำงานในแบบสองมิติ หันกลับมาเน้นการทำงานในแบบสามมิติเป็นหลัก ทั้งนี้อันเนื่องมาจากแนวคิดนี้เน้นการกำหนดข้อมูลประกอบให้กับวัตถุสามมิติที่สร้างขึ้น ทำให้ง่ายต่อการใช้ศักยภาพของคอมพิวเตอร์ในการรสร้างสรรค์ผลงานออกแบบให้มีลักษณะใกล้เคียงกับกระบวนการทำงานจริงมากยิ่งขึ้น
• การใช้เทคโนโลยีของ Building Information Modelling (BIM) เข้ามาร่วมกับกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมนั้น จะเห็นประโยชน์ได้ชัดเจนจากการทำการประมวลผลข้อมูลด้านต่างๆ เข้า
ที่มา:ผศ.วิวัฒน์ อุดมปิติทรัพย์ การใช้แนวความคิด Building Information Modelling (BIM) ในการสร้างสรรค์
ผลงานออกแบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น